เราทุกคนสร้าง “เมืองใจดี” สำหรับคนพิการกันได้นะ
เขียนบทความโดย RISC | 9 ชั่วโมงที่แล้ว
แก้ไขล่าสุด : 9 ชั่วโมงที่แล้ว
รู้หรือไม่ ในประเทศไทยมีคนพิการกว่าหลายล้านคน และมีเพียงส่วนน้อยที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและปลอดภัย ซึ่งปัญหาสำคัญไม่ได้อยู่ที่ “ความสามารถของพวกเขา” แต่อยู่ที่ “สิ่งแวดล้อมรอบตัว” ที่ยังไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต
จากข้อมูลสถานการณ์คนพิการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 พบว่า คนพิการในประเทศไทยมีจำนวนกว่า 2,242,693 คน หรือคิดเป็น 3.39% ของประชากรไทย
ประเภทความพิการที่พบมากที่สุด คือ พิการทางการเคลื่อนไหว/ทางร่างกาย 51.98% พิการทางการได้ยิน/สื่อความหมาย 19.28% พิการทางการเห็น 7.65% และพิการทางจิตใจ/พฤติกรรม 7.34% โดยมีคนพิการที่สามารถประกอบอาชีพได้ 24.26% ของคนพิการที่อยู่ในวัยทำงานทั่วประเทศ
โดยความพิการแบ่งได้ 7 ประเภท ได้แก่ ทางการเห็น, ทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย, ทางร่างกาย, ทางจิตใจหรือพฤติกรรม, ทางสติปัญญา, ทางการเรียนรู้ และทางการออทิสติก ซึ่งคนพิการอาจจะมีความพิการได้มากกว่า 1 ประเภท นั่นยิ่งทำให้ใช้ชีวิตยากลำบากมากขึ้น
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเราต้องรู้ประเภทของคนพิการ?
นั่นก็เพราะเราจะได้เข้าใจ และหาทางในการออกแบบสถานที่ให้รองรับกับความบกพร่องแต่ละประเภท เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งคงจะดีไม่น้อย หากพื้นที่ต่างๆ ในเมือง อาคาร และทุกพื้นที่ ถูกออกแบบมาเพื่อให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง และเพิ่มโอกาสต่างๆ ในชีวิต
แล้วเราจะช่วยคนพิการใช้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้นได้อย่างไร? งั้นเราลองมาดูไอเดียการออกแบบที่รองรับความพิการบางส่วนกัน
- การออกแบบสำหรับคนพิการทางร่างกาย สามารถออกแบบอุปกรณ์ และพื้นที่ให้เอื้อต่อการสัญจรและชีวิตประจำวัน เช่น การออกแบบพื้นให้ไม่มีระดับ ควรราบเรียบเสมอกัน และหากมีการเปลี่ยนระดับควรมีทางลาด อย่างน้อย 1:12 ระยะเอียงที่รถเข็นได้สบาย ประตูเป็นบานเลื่อน ความกว้างของทางเดินหรือประตู อย่างน้อย 90 ซม.(ไม่มีสิ่งกีดขวาง) จุดหมุนตัว อย่างน้อย 150 ซม. ราวจับพยุงตัว มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 ซม. สูงจากพื้น 80-90 ซม. และจับราวได้ตลอดแนว เป็นต้น
- การออกแบบสำหรับคนพิการทางการเห็น ส่วนใหญ่ใช้ไม้เท้านำทางในการกวาดเพื่อสัมผัส รับรู้สิ่งกีดขวางแทนการมองเห็น ทางเดินจึงมีความกว้าง อย่างน้อย 120 ซม. ป้ายอักษรเบรลล์ ควรอยู่ในระยะความสูง 120-150 ซม.จากระดับพื้น เพื่อเป็นระยะที่เอื้อมสัมผัสได้สะดวก และการสัญจรพื้นผิวต่างสัมผัสเพื่อใช้ในการสัญจร ทั้งชนิดปุ่นนูน ใช้สำหรับการเตือน และชนิดเส้นนูน ใช้สำหรับบอกทิศทาง นอกจากนี้ “เสียง” ก็เป็นอีกสัญญาณสำคัญในการบอกสถานะต่างๆ เช่น เสียงบอกไฟข้ามถนน เสียงลิฟท์บอกชั้น เสียงเตือนต่างๆ เป็นต้น
- การออกแบบสำหรับคนพิการทางการได้ยิน ทุกสื่อเราใช้ "สัญญาณภาพแทนเสียง" ใช้การอ่านหรือภาษามือเข้ามาช่วยแทนในทุกการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณาตามทางควรมีตัวหนังสือประกอบการพูดไปด้วย รวมถึงการออกแบบ้ พื้นผิวหรือสัญลักษณ์นำทางด้วยภาพหรือสีช่วยระบุพื้นที่สำคัญ กรณีที่ต้องการเตือนภัย ปกติเราใช้เสียงเตือน เราต้องเพิ่มให้มีระบบสั่น ไฟกระพริบ สัญญาณแสง แทนเสียงเตือนทั้งหมด รวมถึงการดูหนังควรมีคำบรรยายหรือภาษามือเพื่อสื่อสารอีกด้วย
- การออกแบบสำหรับคนพิการออทิสติก คนที่มีปฎิกริยาตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมทั้งการสัมผัส แสง เสียง สีเบี่ยงเบนไป จึงต้องออกแบบไม่กระตุ้นระบบประสาทมาก หรือน้อยเกินไป เช่น การติดตั้งหลอดไฟให้มีแสงสว่างแต่ไม่เห็นหลอด และใช้แสงโทนอุ่น เลี่ยงน้ำหอมปรับอากาศ เลือกใช้วัสดุที่มีความนุ่ม เพื่อลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุและลดเสียงกระทบ เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีมุมโค้งมน หรือติดตั้งแผ่นกันกระแทกที่ขอบโต๊ะและเฟอร์นิเจอร์ พื้นผิวสัมผัสเรียบ สะอาดเพื่อลดการกระตุ้น และสร้างพื้นที่สงบอารมณ์เมื่อโดนกระตุ้นมากเกินไปด้วย
ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ เป็นวันคนพิการแห่งชาติ (National Day of Persons with Disabilities) เป็นวันที่แสดงความสำคัญและให้กำลังใจแก่คนพิการ และส่งเสริมความเท่าเทียมกันในสังคม ที่คนพิการควรได้รับโอกาสและสิทธิที่เท่าเทียมกับคนทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมา RISC และ MQDC ได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนให้เกิดการตระหนักถึงการออกแบบที่รองรับทุกคน อย่างโครงการของ MQDC เรามีมาตรฐานในการออกแบบที่เหมาะสมสำหรับทุกคน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้ทุกคนมั่นใจในการใช้ชีวิต อีกรูปแบบของการดูแลซึ่งกันและกันในสังคม เพื่อสร้าง “สังคมใจดี” ดูแลทุกคน โดยเฉพาะคนพิการให้สามารถใช้ชีวิตเองได้ เพิ่มความมั่นใจ รู้สึกดีต่อตัวเอง ทำทุกอย่างได้เหมือนกับทุกคนทั่วไปเช่นกัน
หากสนใจรายละเอียดการออกแบบ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://asa.or.th/wp-content/uploads/2017/07/BAEDRFA.pdf หรือ https://surl.li/igydxe
เนื้อหาโดย ดร.สฤกกา พงษ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ ฝ่ายบูรณาการงานวิจัยเพื่อการเผยแพร่ และหัวหน้า Happiness Science Hub, RISC
อ้างอิงข้อมูลจาก
กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. 2568.
นวลวรรณ ทวยเจริญ. อออกแบบบ้านอย่างไรให้เหมาะกับเด็กออทิสติก. ศูนย์การออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2565.
ข้อแนะนำการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับทุกคน สมาคมสถาปนิกสยาย ในพระบรมราชูปถัมภ์. 2557.