"กรีนคอนกรีต" นวัตกรรมคาร์บอนต่ำแห่งโลกอนาคต
เขียนบทความโดย RISC | 2 ปีที่แล้ว
แก้ไขล่าสุด : 2 ปีที่แล้ว
RISC 5 Research Hubs: Resilience Hub
จากสถานการณ์ภาวะโลกรวนที่กำลังส่งผลต่อความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิต ทำให้มีหลายภาคส่วนเริ่มหาแนวทางที่จะลดการปล่อยคาร์บอนลง ไม่เว้นแม้แต่ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งจากบทความก่อนหน้านี้ เราคงจะทราบแล้วว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก และมีการใช้ทรัพยากรที่ฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะ “คอนกรีต”
แล้วมีใครรู้บ้างว่าในการก่อสร้าง คอนกรีตจัดเป็นวัสดุก่อสร้างที่ถูกใช้มากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากน้ำ
เราต้องยอมรับว่า คอนกรีตเป็นวัสดุก่อสร้างที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีหลายอย่าง เช่น ความทนทาน ความทนไฟ สามารถหล่อขึ้นรูปร่างได้ตามต้องการและมีราคาที่ย่อมเยา โดยตัวคอนกรีตนั้นจะมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ซีเมนต์ ซึ่งการผลิตซีเมนต์เป็นตัวการสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นั่นก็เพราะการผลิตปูนซีเมนต์ 1 ตันจะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ราว 1 ตัน
การผลิตปูนซีเมนต์ ทำได้โดยการเผาหินปูนที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,500 องศาเซลเซียส ซึ่งการเผานี้เองที่ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก และหากดูจากการผลิตทั่วโลก จะพบว่ามีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 8% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดต่อปี
การจะลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการใช้คอนกรีต จึงเป็นปัญหาท้าทายที่ทั่วโลกต่างเร่งพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อทำให้การผลิตปล่อยคาร์บอนน้อยลง เช่น ลดการใช้ปูนซีเมนต์ที่เป็นสาเหตุหลักแล้วใช้วัตถุดิบอื่นที่ให้คุณสมบัติคล้ายปูนซีเมนต์มาทดแทน
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เช่น บริษัท Chement ที่ใช้กระบวนการทางไฟฟ้าเคมีที่อุณหภูมิห้อง แทนการเผาที่อุณหภูมิสูง 1,500 องศาเซลเซียส ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถช่วยลดคาร์บอนไปได้ราวๆ ครึ่งหนึ่งจากการลดการใช้พลังงาน รวมถึงการนำแนวคิด CCUS (Carbon capture utilization and storage) มาประยุกต์ใช้ อย่างเช่น CarbonCure เป็นการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในคอนกรีตระหว่างที่ยังไม่แข็งตัว ตัวคาร์บอนไดออกไซด์จะทำปฏิกิริยากับแคลเซียมอิออนจากซีเมนต์ เกิดเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตและถูกกักเก็บไว้ในคอนกรีต
จะเห็นได้ว่าท่ามกลางภาวะโลกรวน การเลือกใช้คอนกรีตที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ หรือเลือกใช้วัสดุอื่นทดแทนคอนกรีตจึงเป็นหนทางที่ทั้งโลกต้องมุ่งไปให้ได้ ทั้งหมดนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ.2050 นั่นเอง
เนื้อหาโดย คุณ วรพร ปุณยกนก วิศวกรวิจัยอาวุโส RISC
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://breakthroughenergy.org/fellows-project/chement/
https://www.carboncure.com/technologies/