"ลานีญา" ผ่านไป...เรากำลังจะเข้าสู่ "เอลนีโญ"
เขียนบทความโดย RISC | 2 ปีที่แล้ว
แก้ไขล่าสุด : 2 ปีที่แล้ว
เอลนีโญ (El Niño) และลานีญา (La Niña) เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยหรือได้ยินกันมาบ้าง แต่รู้หรือไม่ว่า ทั้ง 2 ปรากฏการณ์ กำลังส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเราทุกคนมากขึ้น
ก่อนอื่นเรามารู้จักปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญากันก่อน ว่าเกิดขึ้นจากอะไร?
ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ระหว่างกระแสน้ำและชั้นบรรยากาศ เกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณแถบเส้นศูนย์สูตรในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก (Eastern Tropical Pacific Ocean) หรือที่เรียกว่า El Niño – Southern Oscillation (ENSO) ก่อให้เกิดสภาวะอากาศแปรปรวนอย่างฉับพลัน
โดยในสภาวะปกติ (ENSO-Neutral) บริเวณแถบเส้นศูนย์สูตรในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก จะมีกระแสลมที่เรียกว่า ลมสินค้า (Trade Wind) ที่จะพัดนำกระแสน้ำอุ่นบนพื้นผิวของมหาสมุทรแปซิฟิกทางด้านตะวันออก มายังด้านตะวันตกของมหาสมุทร ทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย เกิดฝนตก และในขณะเดียวกัน บริเวณด้านตะวันออกของมหาสมุทร จะมีกระแสน้ำเย็นไหลเข้ามาแทนที่กระแสน้ำอุ่นบริเวณแนวชายฝั่งทวีปอเมริกาใต้ที่ถูกลมสินค้าพัดออกไป ทำให้แนวชายฝั่งประเทศเปรู เอกวาดอร์ และชิลี เป็นแหล่งทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์
แต่ถ้าหากเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญขึ้น กระแสน้ำและชั้นบรรยากาศจะเกิดความแปรปรวน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลียจะเกิดความแห้งแล้งอย่างรุนแรง และแนวชายฝั่งประเทศเปรู เอกวาดอร์ และชิลี สูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล และในทางกลับกันเมื่อเกิดลานีญา ฝนจะตกหนักมากกว่าปกติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย และเกิดความแห้งแล้งอย่างรุนแรงในบริเวณตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้
สำหรับประเทศไทย ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เราได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ลานีญาที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและยาวนานผิดปกติ โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงกันยายนปี 2020 มาจนถึงกุมภาพันธ์ปี 2023 ซึ่งเป็นการเกิดปรากฏการณ์ลานีญาติดต่อกัน 3 ปี เป็นครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ทำให้ในช่วงที่ผ่านประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลกได้เจอฝนตกหนักผิดปกติ จนทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ รวมทั้งเกิดฝนทิ้งช่วง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรโดยตรง
แต่ล่าสุด จากรายงานขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ได้ระบุว่า ปรากฏการณ์ลานีญาได้อ่อนกำลังลง จนทำให้อยู่ในสภาวะความเป็นกลาง หรือที่เรียกว่า ENSO-Neutral ในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม และมีโอกาสเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงปลายปี 2023 ซึ่งจากรายงานขององค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NOAA) ได้ระบุไว้ว่า จะก่อให้เกิดความแห้งแล้งอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย และประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งออสเตรเลีย
ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญานั้น เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่อยู่คู่กับโลกของเรามานานนับพันปี แต่ระยะเวลาการเกิดที่นานขึ้นและมีความรุนแรงมากขึ้น เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก (Climate Change) หรือสภาวะโลกรวน ที่มีสาเหตุหลักมาจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม การพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเราทุกคน และทุกๆ ภาคส่วน จึงเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยรักษาโลกใบนี้ ให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตอาศัยอยู่ต่อไปได้ในอนาคต
เนื้อหาโดย คุณ ศิรพัชร มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS), RISC
อ้างอิงข้อมูลจาก
http://www.lesa.biz/earth/hydrosphere/elnino
https://ngthai.com/science/26980/elnino-lanina/
https://www.bbc.com/thai/articles/c13xz00lzpzo
https://community.wmo.int/en/activity-areas/climate/wmo-el-ninola-nina-updates#archive
https://www.cpc.ncep.noaa.gov/products/analysis_monitoring/enso_advisory/ensodisc.shtml