ลดการใช้พลังงาน ด้วย "Energy Saving Materials"
เขียนบทความโดย RISC | 2 ปีที่แล้ว
แก้ไขล่าสุด : 2 ปีที่แล้ว
เมืองไทยขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องของสภาพอากาศที่ร้อนแทบจะตลอดทั้งปี พัดลมหรือเครื่องปรับอากาศจึงกลายเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็นที่สุดไปแล้วที่เราจะขาดไม่ได้
แต่ยิ่งอากาศร้อนมากเท่าไหร่ เราก็กลับใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้ค่าไฟพุ่ง แถมการใช้เครื่องปรับอากาศก็ยังทำให้ความร้อนภายนอกอาคารสูงขึ้นอีกด้วย
ปัญหาเหล่านี้จะบรรเทาลงได้ หากเราให้ความใส่ใจในการเลือกวัสดุที่ช่วยลดการถ่ายเทความร้อนเข้าสู่อาคารได้ ซึ่งวัสดุแบ่งได้ 2 ประเภท คือ...
ประเภทแรกคือ “วัสดุกันความร้อน” ทำหน้าที่ช่วยชะลอหรือสกัดกั้นความร้อนเข้าอาคาร อย่างเช่น...
“ฉนวนกันความร้อน” ที่ปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายชนิด แต่การเลือกฉนวนที่ดีนั้น ต้องคำนึงถึงค่าต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ค่าการนำความร้อน (Thermal conductivity – K value, W/m.K) คือค่าที่บอกว่าฉนวนชนิดนั้นมีคุณสมบัตินำความร้อนมากน้อยเพียงใด ค่า K ยิ่งน้อย ยิ่งดี และ ค่าความต้านทานความร้อน (Thermal resistance – R value, m2K/W) คือ ค่าที่บอกความสามาถของวัสดุในการยับยั้งการไหล หรือถ่ายเทความร้อน โดยขึ้นอยู่กับความหนา และค่า k ของวัสดุนั้นๆ ค่า R ยิ่งมาก ยิ่งดี
นอกจากนี้ ยังต้องให้ความสำคัญกับอันตรายจากแร่ใยหิน (Asbestos) ที่ส่วนใหญ่ถูกนำผสมมาอยู่ในผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง ถึงแม้จะมีคุณสมบัติทนไฟได้ดี แต่ก็ถือว่าเป็นวัสดุอันตราย นั่นก็เพราะมีเส้นใยที่มีขนาดเล็ก แหลมคมเหมือนเข็มและฟุ้งกระจายได้ง่ายในบรรยากาศ ถ้าสัมผัสจะเกิดการระคายเคือง หรือหากสูดดมเข้าไป อาจส่งผลทำให้เป็นมะเร็งปอดได้
ปัจจุบัน ฉนวนกันความร้อนที่ดีต่อสุขภาวะ ก็มีที่ผลิตมาจากเส้นใยสังเคราะห์โพลีเอสเตอร์ (Polyester) มีลักษณะเป็นสายโซ่ยาว เรียบ และพื้นที่หน้าตัดไม่มีความแหลมคม ไม่เกิดการระคายเคือง ทนความชื้นได้สูงกว่าเส้นใยธรรมชาติ ใช้งานได้ยาวนาน สามารถป้องกันความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่พิเศษคือผลิตจากวัสดุรีไซเคิล จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จนได้รับฉลากเขียว (Green Label) อีกด้วย
วัสดุประเภทที่ 2 ทำหน้าที่หลัก คือ "วัสดุที่ไม่สะสมความร้อน" ไม่เกิดความร้อนในวัสดุตั้งแต่แรก ทำให้ไม่มีความร้อนถ่ายเทสู่ภายในอาคารหรือบ้านได้
RISC ก็มีการทำวิจัยร่วมกับทาง Kenzai จนเกิดเป็น นวัตกรรมกระเบื้องระบายอากาศ “Thermic Tiles” โดยกระเบื้องนี้ทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนให้กับผนังบ้านด้วยกลไกทางธรรมชาติที่เรียกว่า “Thermodynamic” ด้วยรูปทรงของกระเบื้องที่ออกแบบให้ลมพัดพาความร้อนออกได้ (Ventilation Design) จึงช่วยลดความร้อนสะสมจากผิวกระเบื้องที่ได้รับจากแสงอาทิตย์ ส่งผลให้ตัวกระเบื้องสามารถลดความร้อนที่ผิวหน้าลงไปได้ถึง 56% และตัวกระเบื้องเองยังถูกออกแบบให้ลดพื้นที่รับแสงอาทิตย์ที่มาตกกระทบ (Self Shading) ซึ่งจากทั้งสองคุณสมบัติเบื้องต้นนี้ จึงทำให้กระเบื้อง Thermic Tiles สามารถลดอุณหภูมิภายในอาคารลงได้ถึง 10%
ด้วยคุณสมบัติและการออกแบบ จึงทำให้กระเบื้อง Thermic Tiles ของ Kenzai ได้รับการการันตีด้วยรางวัลการออกแบบทั้งในระดับชาติและนานาชาติมากถึง 3 รางวัล อย่าง G-Mark (Good Design Award) จาก Japan Institute of Design ที่ประเทศญี่ปุ่น, รางวัลการออกแบบดีจาก DEmark (Design Excellence Award) ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมจากประเทศไทย อีกทั้งยังได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่สอง จากงานสถาปนิก’61 ซึ่งเป็นงานระดับประเทศของสถาปนิกไทยอีกด้วย
หากบ้านไหนต้องการที่จะลดภาระค่าไฟฟ้า การเลือกวัสดุที่ช่วยลดการถ่ายเทความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ นอกจากจะช่วยให้บ้านของเราไม่มีความร้อนสะสม ปลอดภัยต่อสารที่เป็นอันตรายแล้ว ก็ยังช่วยในเรื่องของสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน
เนื้อหาโดย คุณ ทิพทับทิม ภูมิพาณิชย์ สถาปนิกวิจัยอาวุโส Sustainable Building Materials, RISC