เรามาทำบ้านให้ ‘ปลอดเชื้อรา’ กันเถอะ” (2)
เขียนบทความโดย RISC | 5 ปีที่แล้ว
แก้ไขล่าสุด : 2 ปีที่แล้ว
เราเคยสังเกตกันไหมคะว่า ทำไมเวลาเราเลือกของเข้าบ้าน ทั้งที่ดูดีแล้วว่าไม่น่าจะเกิดเชื้อรา แต่พอใช้ไปสักพักก็มีรอยดำๆ จุดดำๆ เกิดขึ้นมาจนได้ นั่นเป็นเพราะแม้เนื้อของวัสดุเองไม่เกิดเชื้อรา แต่ที่ผิวของวัสดุเหล่านั้นมีการเกาะของฝุ่นละอองซึ่งเป็นอาหารของเชื้อรา ผสมกับความชื้น เลยทำให้ “ครบวงจร” ของการเกิดเชื้อราค่ะ
ดังนั้น การจะทำให้บ้านของเรา “ปลอดเชื้อรา” ได้นั้น ขั้นแรกเลยเราจะต้อง “ตัดวงจรของการเกิดเชื้อรา” ให้ได้ค่ะ จากที่เล่าให้เพื่อนๆ ทราบกันในตอนที่แล้วว่า เชื้อราเกิดจากการรวมกันของ 3 องค์ประกอบ คือ ความชื้น อาหารของเชื้อรา และอุณหภูมิ ซึ่งการตัดวงจร หรือ ตัดองค์ประกอบนั้น เราจะเน้นไป 2 ส่วน คือ “การควบคุมความชื้น” และ “การควบคุมแหล่งอาหารของเชื้อรา” ในการปรับปรุงบ้านของเรา
(ส่วนการควบคุมอุณหภูมินั้นทำได้ยาก เนื่องจากช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อราส่วนใหญ่อยู่ที่ 15-30 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงที่มนุษย์รู้สึกสบายเช่นเดียวกัน การทำให้ “เชื้อราไม่ชอบ” จึงเป็นช่วงที่จะทำให้ “เราไม่ชอบ” ไปด้วย)
แนวทางการปรับปรุงบ้าน ... ให้ “ปลอดเชื้อรา”
เราต้องเริ่มทำตั้งแต่ “ภายนอกอาคาร” ไปจนถึง “เปลือกอาคาร” และสุดท้ายคือ “ภายในอาคาร” ในส่วนการตกแต่งภายใน จึงจะสามารถป้องกันการเกิดของเชื้อราได้อย่างครบวงจร คราวนี้จะขอแนะนำการปรับปรุงบ้านเน้นไปที่ 2 ส่วน เพื่อตัดวงจรการเกิดเชื้อรากันนะคะ
ส่วนแรก คือ การควบคุมความชื้น ให้กับบ้านของเราในส่วนต่างๆ ทำได้ดังนี้
1. การจัดการระบายน้ำรอบบ้าน เป็นการเพื่อให้น้ำภายนอกอาคารไหลผ่าน หรือทำทางน้ำไหลออกจากตัวอาคาร ไม่ว่าจะเป็นทางลาดเอียง หรือท่อระบายน้ำ จะช่วยลดน้ำขังรอบตัวอาคารได้ ทำให้ลดแนวโน้มการซึมของน้ำเข้าสู่ตัวอาคารได้
2. การจัดการควบคุมความชื้นของเปลือกอาคาร
§ หลังคาบ้าน รูปแบบหลังคาจั่วหรือปั้นหยาที่มีความชันมาก ชายคาและกันสาดยื่นยาว สามารถบังฝนและละอองฝน ช่วยลดการสะสม การไหลย้อน และการขังของน้ำฝนได้
§ ผนังบ้าน การเลือกผนังอาคารที่ไม่สะสมความชื้น รูปแบบผนังเบาโครงเคร่าไม้อย่างบ้านเราสมัยก่อน ช่วยลดการสะสมความชื้น ลดการควบแน่น และมีการระเหยของความชื้นได้ดีกว่าผนังก่ออิฐ เป็นการลดความชื้นสะสมที่ผนังได้ดี
§ ช่องเปิดและรอยต่อ การป้องกันน้ำรั่วซึมเข้าช่องเปิดและรอยต่อต่างๆ ด้วยการทำคิ้ว การทำช่องเปิดลึกเข้ามาและทำขอบเอียงลาดออกด้านนอก และการปิดแผ่นทับจุดเชื่อมต่อ กันน้ำรั่วซึมเข้ามาบริเวณรอยต่อต่างๆ เช่น หลังคา ระเบียง ผนัง
§ ส่วนพื้น การป้องกันความชื้นบริเวณพื้น ต้องมีการทำพื้นให้เอียงลาดระบายได้น้ำได้ และหากเป็นไปได้ควรยกพื้นไม่ให้สัมผัสกับดินโดยตรง หรือดีที่สุดคือการยกใต้ถุนอย่างบ้านไทยสมัยก่อน วิธีการนี้ไม่ได้ป้องกันความชื้นได้อย่างเดียว แต่หนีน้ำท่วมได้อีกด้วย
3. การระบายอากาศเพื่อลดปริมาณเชื้อรา การไหลเวียนของอากาศที่ดีจะช่วยพัดพาความชื้นภายในอาคาร หรือแม้แต่หยดน้ำต่างๆ ที่เกิดจากการควบแน่นในส่วนต่างๆ ของผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ ให้ระเหยไปได้ เมื่อลดความชื้น ได้จะช่วยลดแนวโน้มการเกิดเชื้อราได้นั่นเอง
การตัดวงจรอีกส่วน คือ การควบคุมแหล่งอาหารของเชื้อรา ภายในบ้านของเรา สามารถทำได้ดังนี้
1. การเลือกวัสดุทนชื้น กันรา วัสดุตกแต่งภายในจัดว่าเป็นอาหารและแหล่งฟักตัวของเชื้อรา โดยเฉพาะวัสดุที่มีเซลลูโลส ได้แก่ วอลล์เปเปอร์ ผ้าม่าน ฝ้าและผนังยิปซัมบอร์ด ไม้ ฉนวน สี กระดาษ พรม หากจำเป็นต้องใช้จริงๆ ให้เน้นดูที่คุณสมบัติต้านทานความชื้น และเชื้อรา
2. การทำให้บ้านไม่มีฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นการแยกพื้นที่มีฝุ่นละออง การเลือกวัสดุที่ไม่จับฝุ่น ขอบหรือมุมไม่สะสมฝุ่น ให้ทำความสะอาดได้ง่าย สะดวก หรือการปลูกพืชที่ช่วยจับฝุ่นตั้งแต่ก่อนเข้ามาภายในบ้าน
จากแนวทางการปรับปรุงบ้านเพื่อตัดวงจรการเกิดเชื้อราภายในบ้านข้างต้น บางส่วนอาจจะต้องคิดและทำตั้งแต่เริ่มสร้างบ้านใหม่กันเลยทีเดียว แต่บางส่วนสามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องทุบ รื้อ ให้เสียเงินมากมายนัก เพื่อนๆ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ให้บ้านของเรา ได้ผลดีอย่างไร ส่งข่าวมาบอกกันด้วยนะคะ
แบ่งปันข้อมูล : ฝ่ายวิจัยและพัฒนา
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
http://www.magnolia.co.th