RISC

เรามาทำบ้านให้ ‘ปลอดเชื้อรา’ กันเถอะ” (2)

เขียนบทความโดย RISC | 5 ปีที่แล้ว

แก้ไขล่าสุด : 2 ปีที่แล้ว

1007 viewer

เราเคยสังเกตกันไหมคะว่า ทำไมเวลาเราเลือกของเข้าบ้าน ทั้งที่ดูดีแล้วว่าไม่น่าจะเกิดเชื้อรา แต่พอใช้ไปสักพักก็มีรอยดำๆ จุดดำๆ เกิดขึ้นมาจนได้ นั่นเป็นเพราะแม้เนื้อของวัสดุเองไม่เกิดเชื้อรา แต่ที่ผิวของวัสดุเหล่านั้นมีการเกาะของฝุ่นละอองซึ่งเป็นอาหารของเชื้อรา ผสมกับความชื้น เลยทำให้ “ครบวงจร” ของการเกิดเชื้อราค่ะ

ดังนั้น การจะทำให้บ้านของเรา “ปลอดเชื้อรา” ได้นั้น ขั้นแรกเลยเราจะต้อง “ตัดวงจรของการเกิดเชื้อรา” ให้ได้ค่ะ จากที่เล่าให้เพื่อนๆ ทราบกันในตอนที่แล้วว่า เชื้อราเกิดจากการรวมกันของ 3 องค์ประกอบ คือ ความชื้น อาหารของเชื้อรา และอุณหภูมิ ซึ่งการตัดวงจร หรือ ตัดองค์ประกอบนั้น เราจะเน้นไป ส่วน คือ “การควบคุมความชื้น” และ “การควบคุมแหล่งอาหารของเชื้อรา” ในการปรับปรุงบ้านของเรา

(ส่วนการควบคุมอุณหภูมินั้นทำได้ยาก เนื่องจากช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อราส่วนใหญ่อยู่ที่ 15-30 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงที่มนุษย์รู้สึกสบายเช่นเดียวกัน การทำให้ “เชื้อราไม่ชอบ” จึงเป็นช่วงที่จะทำให้ “เราไม่ชอบ” ไปด้วย)

แนวทางการปรับปรุงบ้าน ... ให้ “ปลอดเชื้อรา”

เราต้องเริ่มทำตั้งแต่ “ภายนอกอาคาร” ไปจนถึง “เปลือกอาคาร” และสุดท้ายคือ “ภายในอาคาร” ในส่วนการตกแต่งภายใน จึงจะสามารถป้องกันการเกิดของเชื้อราได้อย่างครบวงจร คราวนี้จะขอแนะนำการปรับปรุงบ้านเน้นไปที่ ส่วน เพื่อตัดวงจรการเกิดเชื้อรากันนะคะ

 

ส่วนแรก คือ การควบคุมความชื้น ให้กับบ้านของเราในส่วนต่างๆ ทำได้ดังนี้

1.    การจัดการระบายน้ำรอบบ้าน เป็นการเพื่อให้น้ำภายนอกอาคารไหลผ่าน หรือทำทางน้ำไหลออกจากตัวอาคาร ไม่ว่าจะเป็นทางลาดเอียง หรือท่อระบายน้ำ จะช่วยลดน้ำขังรอบตัวอาคารได้ ทำให้ลดแนวโน้มการซึมของน้ำเข้าสู่ตัวอาคารได้

2.    การจัดการควบคุมความชื้นของเปลือกอาคาร

§  หลังคาบ้าน รูปแบบหลังคาจั่วหรือปั้นหยาที่มีความชันมาก ชายคาและกันสาดยื่นยาว สามารถบังฝนและละอองฝน ช่วยลดการสะสม การไหลย้อน และการขังของน้ำฝนได้

§  ผนังบ้าน การเลือกผนังอาคารที่ไม่สะสมความชื้น รูปแบบผนังเบาโครงเคร่าไม้อย่างบ้านเราสมัยก่อน ช่วยลดการสะสมความชื้น ลดการควบแน่น และมีการระเหยของความชื้นได้ดีกว่าผนังก่ออิฐ เป็นการลดความชื้นสะสมที่ผนังได้ดี

§  ช่องเปิดและรอยต่อ การป้องกันน้ำรั่วซึมเข้าช่องเปิดและรอยต่อต่างๆ ด้วยการทำคิ้ว การทำช่องเปิดลึกเข้ามาและทำขอบเอียงลาดออกด้านนอก และการปิดแผ่นทับจุดเชื่อมต่อ กันน้ำรั่วซึมเข้ามาบริเวณรอยต่อต่างๆ เช่น หลังคา ระเบียง ผนัง

§  ส่วนพื้น การป้องกันความชื้นบริเวณพื้น ต้องมีการทำพื้นให้เอียงลาดระบายได้น้ำได้ และหากเป็นไปได้ควรยกพื้นไม่ให้สัมผัสกับดินโดยตรง หรือดีที่สุดคือการยกใต้ถุนอย่างบ้านไทยสมัยก่อน วิธีการนี้ไม่ได้ป้องกันความชื้นได้อย่างเดียว แต่หนีน้ำท่วมได้อีกด้วย

3.    การระบายอากาศเพื่อลดปริมาณเชื้อรา การไหลเวียนของอากาศที่ดีจะช่วยพัดพาความชื้นภายในอาคาร หรือแม้แต่หยดน้ำต่างๆ ที่เกิดจากการควบแน่นในส่วนต่างๆ ของผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ ให้ระเหยไปได้ เมื่อลดความชื้น ได้จะช่วยลดแนวโน้มการเกิดเชื้อราได้นั่นเอง

การตัดวงจรอีกส่วน คือ การควบคุมแหล่งอาหารของเชื้อรา ภายในบ้านของเรา สามารถทำได้ดังนี้

1.    การเลือกวัสดุทนชื้น กันรา วัสดุตกแต่งภายในจัดว่าเป็นอาหารและแหล่งฟักตัวของเชื้อรา โดยเฉพาะวัสดุที่มีเซลลูโลส ได้แก่  วอลล์เปเปอร์ ผ้าม่าน ฝ้าและผนังยิปซัมบอร์ด ไม้ ฉนวน สี กระดาษ พรม หากจำเป็นต้องใช้จริงๆ ให้เน้นดูที่คุณสมบัติต้านทานความชื้น และเชื้อรา

2.    การทำให้บ้านไม่มีฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นการแยกพื้นที่มีฝุ่นละออง การเลือกวัสดุที่ไม่จับฝุ่น ขอบหรือมุมไม่สะสมฝุ่น ให้ทำความสะอาดได้ง่าย สะดวก หรือการปลูกพืชที่ช่วยจับฝุ่นตั้งแต่ก่อนเข้ามาภายในบ้าน

จากแนวทางการปรับปรุงบ้านเพื่อตัดวงจรการเกิดเชื้อราภายในบ้านข้างต้น บางส่วนอาจจะต้องคิดและทำตั้งแต่เริ่มสร้างบ้านใหม่กันเลยทีเดียว แต่บางส่วนสามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องทุบ รื้อ ให้เสียเงินมากมายนัก เพื่อนๆ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ให้บ้านของเรา ได้ผลดีอย่างไร ส่งข่าวมาบอกกันด้วยนะคะ

 

แบ่งปันข้อมูล ฝ่ายวิจัยและพัฒนา

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

 

http://www.magnolia.co.th