Changing to a Brave New World
เขียนบทความโดย RISC | 5 ปีที่แล้ว
แก้ไขล่าสุด : 2 ปีที่แล้ว
ยุคของการสื่อสารที่ไร้พรมแดน ทำให้เรารับรู้ถึงปรากฏการณ์ของโลกได้อย่างรวดเร็วและมากมาย ส่งผลให้เกิด “ความกลัว” โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับมหันตภัย เช่น ภัยพิบัติธรรมชาติ น้ำท่วมโลก พายุสุริยะ หรืออาถรรพ์เลข 13 (2013)
ความกลัวส่วนใหญ่เกิดจากความไม่รู้ ทำให้เกิดความเชื่อและการคาดเดา แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ การไม่ตระหนัก ไม่เข้าใจสาเหตุ ไม่ลงมือแก้ไข ไม่ต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งเกิดจากการกระทำของมนุษย์เอง
เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น หลายประเทศยังคงอยู่ในความกลัว แต่มีหลายประเทศที่เมื่อได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติแล้ว กลับใช้ความกลัวเป็นแรงผลักดันเพื่อหาวิธีป้องกันมิให้ภาวะยากลำบากที่เคยได้รับนั้นเกิดขึ้นซ้าอีก เราจะเรียนรู้จากตัวอย่างเหล่านี้ได้อย่างไร
ตัวอย่างการแก้ปัญหาเมื่อเกิดภัยพิบัติของประเทศต่างๆ ที่มีการเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคต
Tohoku the Sky Village, Japan
ประเทศญี่ปุ่นภายหลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ ที่สร้างความเสียหายให้กับเมือง เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011 ที่ผ่านมา ได้ริเริ่มโครงการ Sky Village ที่เมืองโตโฮคุ โดยใช้การยกระดับสูง เพื่อป้องกันอาคารบ้านเรือน และทำโครงสร้างเป็นทรงกลมเพื่อลดแรงปะทะของคลื่นยักษ์โดยตรง และมีการใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าสารองไว้ใช้
The City of Dordrecht, Netherland
ดอร์เดรชท์ เมืองประวัติศาสตร์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ มีการจัดตั้งโครงการ AFD (Adaptable Flood Defences) เพื่อวางแผนรับมือกับอุทกภัยภัยอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่เมืองที่มีอยู่อย่างจำกัด และถูกโอบล้อมไปด้วยอาคาร ด้วยการออกแบบให้อาคารเป็นกำแพงกันน้ำด้วยในตัว ร่วมกับเทคโนโลยีโครงสร้างกำแพงป้องกันน้าที่สามารถซ่อนตัวในภาวะปกติได้โดยไม่กระทบกับภาพลักษณ์ของเมืองประวัติศาสตร์
อีกแง่มุมนึงก็มีกระแสคาดการณ์ว่าปี 2013 จะเป็นปีที่พัฒนาการของเทคโนโลยีล้ำหน้ามากขึ้น มี “ความกล้า” ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการสื่อสาร 4G, E-Book, Tablets, Cloud-based Technology การพัฒนาด้านพลังงานทางเลือก (Alternative Energy) เพื่อทดแทนเทคโนโลยีดั้งเดิม ซึ่งโดยส่วนใหญ่มุ่งเน้นเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่มนุษย์ การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของมนุษยชาตินั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ เพียงแต่ว่ามีเทคโนโลยีใดบ้างหรือไม่ที่สามารถช่วยให้เราอาศัยอยู่บนโลกใบเดิมได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน
มีหลากหลายเทคโนโลยีที่สร้างความสะดวกสบายในขณะเดียวกันยังช่วยให้เราสามารถลดหรือบรรเทาผลกระทบต่อโลกได้ในหลายรูปแบบ เช่น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของเรา และสร้างทางเลือกให้เรามากขึ้นโดยการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อลดการใช้ทรัพยากร จนอาจถึงขั้นไม่ต้องพึ่งทรัพยากรภายนอกเลย
ตัวอย่างเทคโนโลยีที่ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสร้างทางเลือก
Real-time Energy Management System (REMS)
การพัฒนาด้านที่อยู่อาศัยระบบอัจฉริยะ (Smart Home) หรืออาคารอัจฉริยะ (Smart Building) เริ่มมีการใช้เทคโนโลยี REMS ในการออกแบบระบบของบ้านหรืออาคารที่สามารถตรวจวัดและแสดงผลการใช้พลังงานแบบ Real Time และยังเชื่อมโยงเข้ากับอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรับรู้ถึงผลกระทบที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของตนเองในทุกช่วงเวลา เป็นการสร้างจิตสานึก และกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างดี
Fuel Cell Technology
การพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงเพื่อเป็นแหล่งผลิตและสะสมพลังงานสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ พาหนะในการเดินทาง จนถึงแหล่งพลังงานของอาคารบ้านเรือน ซึ่งเซลล์เชื้อเพลิงนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนแหล่งพลังงานดั้งเดิมจาพวกถ่านหิน ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก โดยใช้ก๊าซไฮโดรเจนที่สังเคราะห์ได้จากวัตถุดิบตามธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง จึงถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างทางเลือกในการใช้พลังงานในชีวิตประจำวัน
Social Network System (SNS)
ระบบทางสังคมแบบเครือข่ายถือว่าเป็นกระแสมาแรงในปัจจุบัน ระบบนี้ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ ซึ่งกันและกัน ทำให้สามารถรับรู้ข่าวสารได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และทัศนคติของผู้คนในสังคม เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการปลุกระดมความคิด ความช่วยเหลือ และความกล้าในเชิงสร้างสรรค์อันเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว
พวกเราควรเปลี่ยนความกลัวเป็นการยอมรับและตระหนักถึงสาเหตุของปัญหา กล้าที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนและยอมลดการใช้อย่างสิ้นเปลือง เพื่อช่วยชะลอความรุนแรงของภัยต่างๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนาหรือเลือกใช้เทคโนโลยีที่ช่วยแก้ไขและรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคตด้วยความไม่ประมาท
เริ่มต้น ปี 2013 ก้าวออกจากความกลัว กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงโลกก่อนที่โลกจะเปลี่ยนแปลงเรา
Napol Kieatkongmanee
Saritorn Amornjaruchit