RISC

เรามารับ “แสงธรรมชาติ” อย่างถูกต้องกันเถอะ

เขียนบทความโดย RISC | 4 ปีที่แล้ว

แก้ไขล่าสุด : 2 ปีที่แล้ว

4352 viewer

จากตอนที่แล้ว เพื่อนๆ คงได้ทราบถึงประโยชน์ของแสงธรรมชาติกันมาบ้างแล้ว จะเห็นว่าเป็นประโยชน์ที่เราไม่ได้ลงทุนอะไรเพิ่มเลย ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องหา เพียงแค่ดึงมาใช้ในบ้านของเราให้ได้เท่านั้นเอง ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาคุยถึง “การนำแสงธรรมชาติเข้ามาใช้อย่างเหมาะสม” กันนะคะ

 

การวางทิศทางอาคาร ต้องคำนึงถึงอิทธิพลการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการนำแสงธรรมชาติเข้ามาใช้งานได้อย่างเต็มที่โดยให้มีความร้อนเข้าสู่อาคารน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นคือ เน้นการเปิดช่องแสงทางทิศเหนือ เป็นทิศที่มีแสงธรรมชาติตลอดวันโดยมีแสงแดดเข้ามาน้อยที่สุด และหากมีพื้นที่ต่อเชื่อมกับทิศใต้ได้จะยิ่งดี เพราะจะทำให้ลมประจำพัดผ่านเข้าสู่ตัวบ้านได้อีกด้วย

ช่องเปิดเพื่อนำแสงธรรมชาติเข้าสู่อาคาร แบ่งออกเป็น การนำแสงเข้าจากด้านบน ได้แก่ หลังคา ฝ้าเพดาน และการนำแสงสว่างเข้าด้านข้าง ได้แก่ หน้าต่าง ประตู และต้องคิดร่วมกับการระบายอากาศ การลดความร้อนจากแสงแดด ลักษณะการใช้งานของพื้นที่ใช้สอย การกันฝน ความสวยงาม และการบำรุงรักษา   

ประเทศไทยของเราจะมีทิศทางของแสงที่เหมาะสมทางทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะเป็นทิศทางที่ไม่รับแดดจากดวงอาทิตย์โดยตรง จึงมีความร้อนน้อยกว่าทิศอื่นๆ   

การเลือกใช้วัสดุพื้นผิวภายในอาคาร สามารถเพิ่มความสว่างให้กับภายในอาคารได้ โดยเลือกใช้วัสดุที่มีสีสว่าง เช่น สีขาวหรือสีครีม แต่ไม่ควรมีผิวมันเงามากจนเกินไป เพราะอาจมีการสะท้อนแสง บาดตา สร้างความไม่สบายในการมองเห็นได้

 

หากบ้านของเพื่อนๆ ไม่สามารถทำช่องเปิดทางทิศเหนือ หรือทิศที่แสงแดดไม่เข้าได้แล้วจริงๆ จำเป็นต้องมีช่องเปิดในทิศที่ร้อน อย่างทิศตะวันออกหรือตะวันตก ควรมีการบังเงาไม่ให้แสงแดดเข้ามาภายในบ้านได้ อย่างที่เน้นไปว่า “เราต้องการแสงสว่าง ไม่ต้องการความร้อนจากแสงแดด” การบังเงาสามารถทำได้ด้วยยื่นแผงบังแดดหรือระแนง ทั้งแนวตั้งแนวนอนตามการเอียงของแดด หรือใช้ต้นไม้บังเงาก็ได้ค่ะ   

 

แบ่งปันข้อมูล ฝ่ายวิจัยและพัฒนา

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์  คอร์ปอเรชั่น จำกัด

 

http://www.magnolia.co.th/th/project/story.php

 

แนะนำสำหรับคุณ