RISC

การนำ GIS มาช่วยสนับสนุน Well-Being City

เขียนบทความโดย RISC | 5 ชั่วโมงที่แล้ว

แก้ไขล่าสุด : 5 ชั่วโมงที่แล้ว

43 viewer

หากพูดถึงเทรนด์ที่มาแรงในปีนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “สุขภาพ” ทั้งการมีสุขภาพดีแบบองค์รวม (Holistic Health) ที่ไม่ใช่เพียงแค่การดูแลสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ครอบคลุมไปถึงการดูแลจิตใจ สังคม และสภาพแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน นำไปสู่การมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ (Longevity)​

เราจะเห็นได้จาก ผู้คนเริ่มหันมาปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน การออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการและเหมาะสมกับตนเองมากขึ้น รวมถึงการให้ความสนใจในด้านการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพิ่มมากขึ้น​

แต่รู้หรือไม่ ว่าเมืองก็มีบทบาทสำคัญต่อการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับประชาชนได้เหมือนกัน​

เมืองสุขภาวะ หรือ Well-Being City ไม่ได้เป็นแค่เมืองที่ประชากรสามารถเข้าถึงโรงพยาบาล หรือเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้อย่างสะดวกและครอบคลุมการดูแลสุขภาพสำหรับทุกคนเท่านั้น แต่เมืองจะต้องประกอบไปด้วยโครงสร้างพื้นฐานและองค์ประกอบสำคัญอีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสภาพภูมิอากาศที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี การใช้ชีวิตภายนอกอาคารที่ส่งเสริมการออกกำลังกาย โครงสร้างพื้นฐานและระบบขนส่งสาธารณะที่ช่วยเชื่อมต่อการเข้าถึงบริการต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียม ตลอดจนการมีส่วนร่วมทางสังคม และบริบททางวัฒนธรรมและความเชื่อ ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่มีอิทธิพลต่อจิตใจ และช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี​

แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่า เมืองมีองค์ประกอบที่เหมาะสมต่อการเป็นเมืองสุขภาวะ และสามารถสนับสนุนการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ​

เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ (Geo-informatics Technology) จึงเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง โดยการนำข้อมูลมารวบรวม จัดการ และวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ จะช่วยให้ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์สามารถนำไปใช้ประกอบการวางแผน และการตัดสินใจในด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ​

เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ระดับศักยภาพของพื้นที่เมืองในการเป็นเมืองสุขภาวะดีได้โดยอาศัยตัวชี้วัดเชิงพื้นที่ เช่น ความสามารถในการเข้าถึงสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวในระยะที่เหมาะสม ระดับความเสี่ยงของพื้นที่ต่อการเกิดคลื่นความร้อน (Heat Shock) จากดัชนีความร้อน ค่าคุณภาพอากาศที่ส่งผลต่อสุขภาพ ระดับความเสี่ยงจากภัยพิบัติในพื้นที่ ระยะการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนที่เหมาะสมเพื่อเชื่อมโยงกับบริการต่างๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาวะ การเข้าถึงบริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน รวมถึงความหนาแน่นของประชากรต่อครัวเรือน​

ข้อมูลจะถูกนำมาวิเคราะห์โดยใช้เทคนิคการให้น้ำหนักความสำคัญของปัจจัย (Weighting) และการจัดลำดับคะแนนความเหมาะสมของแต่ละปัจจัย (Rating) เพื่อคำนวณศักยภาพของพื้นที่ ซึ่งผลการวิเคราะห์จะช่วยให้สามารถระบุแนวทางการออกแบบพื้นที่ และนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการวางแผนพัฒนาเมืองสุขภาวะต่อไป​

เนื้อหาโดย คุณ ศิรพัชร มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS), RISC​