RISC

ข่าวสาร

สองศูนย์วิจัยชั้นนำ RISC by MQDC และ Baycrest ร่วมมือกับ The Aspen Tree ไขปริศนาการสร้างความสุขอันยั่งยืน พร้อมนำผลวิจัยประยุกต์ใช้จริง ช่วยยกระดับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขึ้นไปอีกขั้น

Mar 18, 2024 INNOVATION

สองศูนย์วิจัยชั้นนำ RISC by MQDC และ Baycrest ร่วมมือกับ The Aspen Tree ไขปริศนาการสร้างความสุขอันยั่งยืน พร้อมนำผลวิจัยประยุกต์ใช้จริง ช่วยยกระดับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขึ้นไปอีกขั้น

The Aspen Tree โครงการที่อยู่อาศัยเพื่อวัยอิสระแห่งแรกที่ได้ใช้นวัตกรรมและผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาใช้พัฒนาโครงการ ด้วยความร่วมมือของสองศูนย์วิจัยระดับโลก ร่วมสร้างนวัตกรรมด้านสมองและปฏิวัติการดูแลลูกบ้านด้วยองค์ความรู้ใหม่

18 มีนาคม 2567, กรุงเทพฯ –ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนภายใต้ MQDC (RISC by MQDC) ร่วมกับ เบย์เครสต์ เซ็นเตอร์ (Baycrest Centre) ศูนย์วิชาการและเวชศาสตร์การแพทย์เพื่อผู้สูงอายุแบบครบวงจรจากแคนาดา และ ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Aspen Tree The Forestias) โครงการที่อยู่อาศัยเพื่อวัยอิสระ ร่วมศึกษาและพัฒนางานวิจัยเชิงลึกด้านสมอง การชะลอความเสื่อมและหาแนวทางป้องกันโรคทางสมองที่เกิดจากความเสื่อมตามวัย รวมถึงวิจัยศาสตร์แห่งความสุข ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่โดยนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งเป็นการก้าวสำคัญในการยกระดับการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อวัย 50+ อย่างแท้จริง โดยโครงการที่อยู่อาศัย ดิ แอสเพน ทรี จะเป็นแห่งแรกในโลกที่ได้นำผลงานวิจัยเชิงลึกนี้ไปประยุกต์ใช้จริง เพื่อการดูแล ผู้อยู่อาศัยตลอดชีวิต (Holistic Lifetime Care) เน้นการดูแลสุขภาพเชิง ป้องกัน และส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย มีความสุข

ดร.สฤกกา พงษ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ ฝ่ายบูรณาการงานวิจัยเพื่อการเผยแพร่ ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนภายใต้ MQDC (RISC by MQDC) และหัวหน้าทีมวิจัยศาสตร์แห่งความสุขเชิงวิทยาศาสตร์ (Happiness Science Hub) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ ทาง RISC ได้นำเสนอผลงานจากศูนย์วิจัยศาสตร์แห่งความสุขเชิงวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 กลุ่มงานวิจัยของ RISC และเป็นศูนย์วิจัยแห่งแรกในเอเชียที่เน้นค้นคว้าวิจัยเชิงลึก มุ่งค้นหาความลับการทำงานของสมองโดยเฉพาะ เพื่อหาปัจจัยที่ทำให้ มนุษย์ มีความสุข ซึ่งเป็นองค์ความรู้ใหม่ เพื่อนำมาต่อยอดเป็นนวัตกรรมเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต ให้แก่ประชากร โดยเฉพาะกลุ่มคนวัย 50+ ซึ่งกำลังกลายเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ

“เราจะนำนวัตกรรมจากศูนย์วิจัยศาสตร์แห่งความสุขเชิงวิทยาศาสตร์ มาใช้ในโครงการดิ แอสเพน ทรี เป็นแห่งแรก เนื่องจากเป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นโดยมีเป้าหมาย เพื่อสร้างความสุขทั้งกายและใจอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของเรา ที่สำคัญ ดิ แอสเพน ทรี ยังเน้นกลุ่มเป้าหมายคนวัย 50+ ซึ่งเป็นกลุ่มวัยที่เหมาะจะนำงานวิจัยของเราไปประยุกต์ใช้ ก่อนที่จะเผยแพร่ความรู้ที่ค้นพบใหม่นี้สู่สาธารณะ เพื่อขยายผลการสร้างสรรค์นวัตกรรมในอนาคต เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” ดร. สฤกกา กล่าว

ทั้งนี้ ศาสตร์แห่งความสุขเชิงวิทยาศาสตร์ (Happiness Science Hub) เป็นการศึกษาพฤติกรรมและจิตวิทยาของคนทุกช่วงวัย และวิจัยประสาทการรับรู้ของมนุษย์ ผ่านสัญญาณสมองและเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างอารมณ์เชิงบวก และความสุข (Mental Well-Being) รวมถึงทำความเข้าใจความเสื่อมถอยด้านต่างๆ ของผู้สูงอายุ และหาแนวทางลดความเสี่ยงการเกิดโรค อาทิ โรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ เพื่อหาปัจจัยในการส่งเสริมคนแต่ละช่วงวัยให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ซึ่งปัจจุบันนี้ ศาสตร์นี้จัดเป็นวิทยาศาสตร์สาขาใหม่ที่มีองค์ความรู้จำกัด

ดร.สฤกกากล่าวเสริมว่า “งานวิจัยในศาสตร์นี้สามารถนำมาพัฒนาที่อยู่อาศัย เมือง และสิ่งแวดล้อม เพื่อการใช้ชีวิตให้มีความสุขอย่างยั่งยืน แต่ปัจจุบันความรู้สาขานี้ยังมีจำกัด ความร่วมมือระหว่างสามพันธมิตร ผู้เชี่ยวชาญต่างสาขา จะช่วยดึงดูดนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขามาร่วมกันศึกษา ความรู้ใหม่ๆ ต่อเนื่องต่อไป”

ในการทำงานวิจัยนี้ RISC ยังได้รับจากความร่วมมือระหว่างนักวิจัย นวัตกร และผู้เชี่ยวชาญ พันธมิตรจากหลากหลายสาขา อาทิ ศูนย์ปฏิบัติการเชื่อมต่อสมองกับคอมพิวเตอร์ (Brain-computer Interface Lab: BCI) ภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) มหาวิทยาลัยมหิดล​ ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมประสาทวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี​ ศูนย์วิจัยด้านประสาทวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สถาบันพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และอื่นๆเพื่อนำความรู้ไปต่อยอดอีกด้วย

ขณะเดียวกัน เบย์เครส อีกหนึ่งพันธมิตรสำคัญซึ่งทำงานวิจัยศาสตร์เชิงป้องกันและเวชศาสตร์ผู้สูงวัยและสถานทางการแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพคนวัยอิสระมานานนับร้อยปี ได้นำผลงานนวัตกรรม Cogniciti ของศูนย์ที่พัฒนาขึ้น เพื่อใช้ในการรับมือกับภาวะความเสื่อมของสมองและศาสตร์เชิงป้องกันโรคทางสมองต่าง ๆที่มักเกิดกับประชากรวัย 50+ มาร่วมใช้กับโครงการ ดิ แอสเพน ทรี เช่นกัน

ดร. ซิด เฟลด์แมน ผู้อำนวยการฝ่ายเวชศาสตร์ครอบครัวและชุมชน เบย์เครสท์ เซ็นเตอร์ และศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโตรอนโต กล่าวว่า “เบย์เครสท์ ทุ่มเทในการวิจัยด้านสมอง ประสาทวิทยาศาสตร์ เวชศาสตร์ผู้สูงวัยมานานนับร้อยปี เดิม เราได้มีการร่วมมือกับ MQDC ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในโครงการดิ แอสเพน ทรี มาตั้งแต่เริ่มต้น ส่วนความร่วมมือครั้งใหม่นี้ เรายินดีอย่างยิ่งได้ร่วมงานกับพันธมิตรเชิงวิชาการอย่าง RISC by MQDC ซึ่งนำองค์ความรู้ใหม่ด้านศาสตร์แห่งความสุขเชิงวิทยาศาสตร์เข้ามา นับเป็นการต่อยอดความร่วมมือและส่งเสริม การศึกษาวิทยาการที่เกี่ยวข้องให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ที่สำคัญ เรายังมีโอกาสนำนวัตกรรมที่เกิดจากความ

ร่วมมือนี้มาประยุกต์ใช้ในโครงการ ดิ แอสเพน ทรี เพื่อสร้างประโยชน์ได้อย่างแท้จริง และเป็นต้นแบบ สำหรับผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงนักวิจัยทั่วโลกได้ศึกษาต่อยอดและขยายผลเพื่อยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนทั่วโลกต่อไป”

“ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความร่วมมือจาก RISC และ ดิแอสเพน ทรี เราจะร่วมพัฒนา Cogniciti นวัตกรรมทดสอบสุขภาพสมองของเราฉบับภาษาไทยขึ้น ซึ่งเป็นภาษาที่สามของโลกอีกด้วย”

นายคริสเตียน ทอยวาเนน ผู้อำนวยการบริหาร โครงการ ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Aspen Tree The Forestias) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่าทางโครงการยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งร่วมสนับสนุนองค์ความรู้เชิงวิทยาศาสตร์และต่อยอดนวัตกรรม เพื่อให้นำมาใช้ประโยชน์ต่อผู้คน และสังคมได้อย่างแท้จริง และยังเป็นโอกาสอันดีที่ทางโครงการจะได้นำงานวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมและเวชศาสตร์การแพทย์ มาประยุกต์ใช้พัฒนาโครงการได้จริงเป็นแห่งแรกของโลก เพื่อให้โครงการ ดิ แอสเพน ทรี สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยได้คุณภาพตามวิสัยทัศน์ที่ต้องการมอบการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรตลอดชีวิตให้แก่ผู้อาศัย (Holistic Lifetime Care)

ทั้งนี้ ทาง ดิ แอสเพน ทรี ได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มค่าเฉลี่ยอายุที่สูงขึ้นของประชากรส่วนใหญ่ในประเทศต่างๆทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย จึงได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับประชากรกลุ่มดังกล่าวโดยเฉพาะ โดยตั้งเป้าให้เป็นโครงการแห่งแรกของโลกที่มอบการดูแลอย่างครบวงจร เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ จึงได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยและองค์กรผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์การแพทย์เพื่อการดูแลวัยอิสระในการพัฒนาโครงการ เพื่อให้โครงการมีความพร้อมในการรองรับประชากรวัยอิสระได้อย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบจนถึงการให้บริการหลังลูกบ้านเข้าอยู่อาศัยในโครงการแล้ว

“กลุ่มวัยอิสระนับเป็นประชากรที่มีความสำคัญต่อสังคม เพราะคนกลุ่มนี้จำนวนมาก มีความสามารถและ ประสบการณ์มากมาย หลายคนยังแอคทีฟ สามารถทำงาน ทำประโยชน์ เพื่อสังคมได้ไม่ด้อยไปกว่า ประชากรวัยทำงาน การส่งเสริมให้คนกลุ่มนี้ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขา มีความสุข แต่ยังส่งผลถึงการพัฒนาสังคมที่มีคุณภาพในทุกมิติ โครงการดิ แอสเพน ทรี ยินดีที่ได้สนับสนุน การทำงานของ Happiness Science Hub by RISC และ Baycrest โดยพร้อมจะเป็น sandbox หรือสถานที่ที่ให้นวัตกรจากศูนย์วิจัยและพันธมิตรได้นำนวัตกรรมมาใช้ภายใน โครงการเป็นแห่งแรก เพื่อประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัยในโครงการ และการศึกษาและพัฒนาต่อยอด ในอนาคตอีกด้วย”

รายงานจาก Statista พบว่าประชากรสูงอายุทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 20-30% ของประชากรทั้งหมด ในปีพ.ศ. 2563 เป็น 30-40% ในปี 2593 ซึ่งหมายถึงประชากรโลก 1 ใน 6 คนเป็นผู้สูงอายุ นอกจากนี้ รายงานในวารสาร Lancet Public Health ในปี 2565 คาดการณ์ว่าประชากรโลกที่เป็นโรคสมองเสื่อม จะเพิ่มขึ้นมากถึง 166% ในปี พ.ศ. 2593 นับจากปี 2562 ส่วนในประเทศไทย ประชากรอายุเกิน 60 ปี ซึ่งมีประมาณ 20% ของประชากรทั้งหมดเมื่อปี พ.ศ. 2565 และจะเพิ่มเป็น 40%ในปี พ.ศ. 2593 และผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในประเทศไทย จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าเป็นห่วงถึง 257% ใน 30 ปีข้างหน้า

ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC)

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
เลขที่ 695 หมู่ที่ 12 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540


เวลาทำการ
วันจันทร์ – ศุกร์ | 11.00 – 17.00 น.


แผนที่ที่ตั้ง
ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า 1265