นั่นก็เพราะ...เราได้ “อาบป่า” นั่นเอง

“การอาบป่า” (Forest bathing) คือการที่เราเอาตัวเราเข้าไปอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติ อาจจะเป็นการอยู่นิ่งๆ บริเวณใดบริเวณหนึ่ง หรือเดินช้าๆ และโฟกัสกับสิ่งที่อยู่รอบตัวผ่าน 5 ประสาทการรับรู้ ทั้งการมอง การฟัง การได้กลิ่น การสัมผัส และการรับรส

ปัจจุบันมีผลงานวิจัยมากมาย ยืนยันประโยชน์ต่อสุขภาพจากการอาบป่า โดยทำการทดลองผ่านการประเมินทางกายภาพ เช่น ความดัน (Blood pressure) การวัดอัตราการเต้นหัวใจ (Heart rate) การวัดอัตราการผันแปรของการเต้นของหัวใจ (Heart rate variability) การวิเคราะห์การแสดงออกทางสีหน้า และการประเมินโดยแบบสอบถามทางจิตวิทยา ซึ่งพบว่า การอาบป่านั้นช่วยลดความเครียด รักษาสุขภาพจิต บำบัดการเจ็บป่วยเรื้อรัง สร้างสุขภาวะที่ดี และยังเพิ่มปริมาณเซลล์นักฆ่าธรรมชาติ (Natural killer cells) หรือเม็ดเลือดขาว ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอีกด้วย

แม้สังคมเมืองในตอนนี้จะเปลี่ยนไป ทั้งการเพิ่มขึ้นของประชากร การขยายและเติบโตของเมือง ส่งผลให้คนเมืองได้สัมผัสธรรมชาติน้อยลง แต่ในเมื่อเราได้เห็นประโยชน์ของการอาบป่ากันแบบนี้แล้ว ก็ลองหาโอกาสไปพักผ่อนตามธรรมชาติในรูปแบบ “การอาบป่า” เพื่อสุขภาพกายและใจของเรากันดูนะครับ

เนื้อเรื่องโดย ธนวัฒน์ จินจารักษ์ นักวิจัยอาวุโส ฝ่ายสิ่งแวดล้อม RISC

อ้างอิงข้อมูลจาก กนกวลี สุธีธร. ชินริง-โยคุกับป่าในเมือง: ทบทวนงานวิจัยการศึกษาการอาบป่าในพื้นที่ภูมิทัศน์เมือง. 2021. ​

Li, Q. Effect of forest bathing trips on human immune function. Environmental Health and Preventive Medicine 15, 9–17 (2010). ​

Li, Q. (2018). Forest bathing: How trees can help you find health and happiness. New Yok, NY; Viking. ​

Miyazaki, Yoshifumi. (2018). Shinrin-Yoku: The Japanese way of forest bathing for health and relaxation. London: Aster. ​

Urban green spaces and health, Copenhagen: WHO Regional Official for Europe, 2016.