RISC

สรุปผลวิจัย "แบบสอบถามเกี่ยวกับการทำงานที่บ้าน ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต"

เขียนบทความโดย RISC | 5 ปีที่แล้ว

แก้ไขล่าสุด : 2 ปีที่แล้ว

309 viewer

ในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนคงได้ปรับตัวทำงานที่บ้านกันอยู่หลายเดือนใช่มั้ยครับ? ซึ่งในอนาคตการทำงานที่บ้าน หรือ Work from home นี้จะเป็นอีกหนึ่ง New Normal ที่เราจะต้องคุ้นชินกันมากขึ้น...RISC จึงได้ทำ “แบบสอบถามเกี่ยวกับการทำงานที่บ้าน ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต” ขึ้นมา เพื่อที่จะได้เข้าใจความรู้สึก ความคิด และพฤติกรรมระหว่างช่วงที่ทำงานที่บ้าน จนทำให้สามารถหาแนวทางการปรับปรุงที่อยู่อาศัย เพื่อรองรับการทำงานที่เปลี่ยนไปในอนาคตได้ ซึ่งสามารถสรุปออกมาได้ ดังนี้

การทำงานที่บ้าน พบว่า...

- คนส่วนใหญ่มีความสุขมากขึ้น โดยคน Gen X (37.15%) รู้สึกมีความสุขกับการ WFH มากที่สุด
- คนส่วนใหญ่รู้สึกผ่อนคลาย โดยคน Gen X (31.69%) รู้สึกผ่อนคลายจากการ WFH มากที่สุด
- คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวดีขึ้น โดยคน Gen X (30.60%) ความสัมพันธ์ค่อนข้างดี ส่วน Baby Boomers (28%) ความสัมพันธ์ดีขึ้นมาก
- คนส่วนใหญ่สามารถคิดงานได้มากขึ้น โดยคน Gen X (32.24%) รู้สึกว่าคิดงานได้ จากการ WFH
- คนส่วนใหญ่มีสมาธิในการทำงานไปในทางค่อนข้างดี และมีสมาธิดีขึ้นมาก โดยคน Gen Y (30.17%) มีสมาธิมากขึ้นจากการ WFH มากที่สุด
- ส่วนที่อยากปรับปรุงบ้านให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ พื้นที่ทำงาน โต๊ะ-เก้าอี้ (59.46%) รองลงมา อุณหภูมิห้อง (43.21%) และแสงสว่าง (26.07%)
- บ้านที่ส่งเสริมการ Work from home ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด พบว่า คนส่วนใหญ่ต้องการโต๊ะ-เก้าอี้ทำงานที่เหมาะสม รองลงมา สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ดี และมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ไม่ว่าจะเป็นแสงสว่างที่เหมาะสม การระบายอากาศดี อุณหภูมิห้องที่เหมาะสม เป็นต้น
- ส่วนใหญ่เห็นว่า “ที่ทำงาน” เหมาะกับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เป็นกลุ่มคน Baby boomers (52%) รองลงมา Gen Y (48.81%), Gen X (45.90%), Gen Z (35.7%)

นอกจากนี้ยังพบว่า คนส่วนใหญ่อยากให้บ้านมี “พื้นที่ทำงาน” ขนาดใหญ่ขึ้น รองลงมาเป็น “ห้องนั่งเล่น” และ “ห้องนอน” ตามลำดับ เนื่องจากสามารถปรับเป็นที่ทำงานได้ เพื่อให้เกิดการทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่วนใหญ่ไม่ต้องการลดขนาดห้องในบ้านเลย แต่มีบางส่วนเสนอให้ลดขนาด “ห้องนอน” และ “ห้องน้ำ” ให้เล็กลง

แนะนำสำหรับคุณ

"Neuroinclusive Design”​ การออกแบบรองรับการรับรู้รอบตัวที่ต่างกัน​
Happiness Science

"Neuroinclusive Design”​ การออกแบบรองรับการรับรู้รอบตัวที่ต่างกัน​

สีสันของดอกไม้​  มีอิทธิพลต่อความรู้สึกมากกว่าที่เราคิด
Happiness Science

สีสันของดอกไม้​ มีอิทธิพลต่อความรู้สึกมากกว่าที่เราคิด

Eye Tracking เทคโนโลยีสู่การออกแบบ "เมืองน่าอยู่" และ "เมืองปลอดภัย"
Happiness Science

Eye Tracking เทคโนโลยีสู่การออกแบบ "เมืองน่าอยู่" และ "เมืองปลอดภัย"

ธรรมชาติกับการพัฒนาการของเด็กและความสัมพันธ์ของครอบครัว
Happiness Science

ธรรมชาติกับการพัฒนาการของเด็กและความสัมพันธ์ของครอบครัว

Quality Time ของครอบครัว ส่งเสริม Quality of Life
Happiness Science

Quality Time ของครอบครัว ส่งเสริม Quality of Life

Neuromarketing กับการใช้เทคโนโลยีตรวจจับอารมณ์ผ่านใบหน้า เพื่องานการตลาด
Happiness Science

Neuromarketing กับการใช้เทคโนโลยีตรวจจับอารมณ์ผ่านใบหน้า เพื่องานการตลาด

Neuromarketing คืออะไร?​ ช่วยคุณเพิ่มยอดขายได้อย่างไร?
Happiness Science

Neuromarketing คืออะไร?​ ช่วยคุณเพิ่มยอดขายได้อย่างไร?

ทำไม "แสงแดด" ถึงสำคัญต่อเรา?​
Happiness Science

ทำไม "แสงแดด" ถึงสำคัญต่อเรา?​

เสียงน้ำ สายฝน มีผลต่ออารมณ์ของเราอย่างไร?
Happiness Science

เสียงน้ำ สายฝน มีผลต่ออารมณ์ของเราอย่างไร?

"ฝนตก" ทำให้คนเหงา จริงหรือคิดไปเอง?
Happiness Science

"ฝนตก" ทำให้คนเหงา จริงหรือคิดไปเอง?