พื้นที่สีเขียวและธรรมชาติ “เพื่อนเงียบๆ” ที่คอยโอบอุ้มใจเรา
โดย RISC | 1 วันที่แล้ว
รู้หรือไม่ แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายมากกว่า 720,000 คน หรือเฉลี่ย 1 คนในทุกๆ 40 วินาทีการฆ่าตัวตายไม่เพียงส่งผลต่อผู้จากไป แต่ยังสร้างบาดแผลทางจิตใจต่อครอบครัว เพื่อน และสังคมอีกด้วยสำหรับในประเทศไทย ปัญหานี้ก็ยังคงน่ากังวล โดยแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายกว่า 4,500–5,000 คน หรือเฉลี่ยมากกว่า 12 คนต่อวัน ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า เราทุกคนต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกันการสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้นแม้การฆ่าตัวตายจะเป็นปัญหาที่ซับซ้อน แต่เราสามารถเริ่มป้องกันได้จากสิ่งเล็กๆ รอบตัว เช่น📌 สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวที่อบอุ่น📌 เปิดใจฟังกันอย่างจริงใจโดยไม่ตัดสิน📌 สนับสนุนให้ทุกคนเข้าถึงบริการสุขภาพจิตได้อย่างสะดวก และไม่ถูกตีตรา📌 สร้างสังคมที่ทุกคนสามารถพูดถึงความรู้สึกของตัวเองได้อย่างปลอดภัยสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้คือ “เกราะป้องกันใจ” ที่ช่วยให้ผู้ที่กำลังเปราะบางไม่รู้สึกโดดเดี่ยวจนเกินไปนอกจากการเพิ่มเกราะป้องกันใจแล้ว สิ่งแวดล้อมรอบตัว อย่างพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติ ก็มีบทบาทสำคัญในการปกป้องสุขภาพจิต และลดความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายพื้นที่สีเขียวไม่เพียงแค่เพิ่มความสวยงามให้เมือง แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิตในหลายด้าน ทั้ง...📌 ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การดักจับคาร์บอนและปรับปรุงคุณภาพน้ำ📌 ด้านสุขภาพกาย เช่น การลดมลพิษทางอากาศและปรับอุณหภูมิในเมือง📌 ด้านสุขภาพจิต เช่น การลดความเครียดและสร้างความสงบโดยงานวิจัยในเวลส์ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลประชากรกว่า 2 ล้านคนตลอด 10 ปีพบว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีสภาพแวดล้อมร่มรื่น หรืออยู่ใกล้พื้นที่สีเขียวและแหล่งน้ำ มีความเสี่ยงต่อความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าน้อยลงการส่งเสริมให้ประชาชนใช้พื้นที่สีเขียว พร้อมกับการพัฒนาและดูแลให้เข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ผู้คนมักเผชิญความเครียดหรือความกดดันสูง เช่น ชุมชนหนาแน่น พื้นที่ทำงานเสียงดัง หรือชุมชนที่ขาดพื้นที่สันทนาการ จะช่วยให้ทุกคนมีโอกาสได้รับประโยชน์ด้านสุขภาพจิตอย่างเท่าเทียมพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติจึงเป็นเหมือน “เพื่อนเงียบๆ” ที่คอยโอบอุ้มใจเรา ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะใกล้บ้าน ทางเดินร่มรื่น หรือพื้นที่สีเขียวในโรงเรียน สถานที่ทำงาน และที่อยู่อาศัยที่กลมกลืนกับธรรมชาติ อย่างเช่น โครงการ The Forestias ที่ออกแบบพื้นที่ป่าเพื่อตอบโจทย์อย่างยั่งยืน เพื่อให้พื้นที่เหล่านี้ช่วยเยียวยาใจ ทำให้เรารู้สึกสงบ ลดความเครียด และเติมพลังใจให้ก้าวต่อเนื้อหาโดย คุณ สิทธา ปรีดาภิรัตน์ นักวิจัยอาวุโส ปฏิบัติการเชื่อมต่อสมองกับคอมพิวเตอร์ Happiness Science Hub, RISCอ้างอิงข้อมูลจากGeary, R. S., Thompson, D., Mizen, A., Akbari, A., Garrett, J. K., Rowney, F. M., … Rodgers, S. E. (2023). Ambient greenness, access to local green spaces, and subsequent mental health: A 10-year longitudinal dynamic panel study of 2·3 million adults in Wales. Lancet Planetary Health, 7(10), e809–e818. https://doi.org/10.1016/S2542-5196(23)00212-7Twohig-Bennett, C., & Jones, A. (2018). The health benefits of the great outdoors: A systematic review and meta-analysis of greenspace exposure and health outcomes. Environmental Research, 166, 628–637. https://doi.org/10.1016/j.envres.2018.06.030Triguero-Mas, M., Dadvand, P., Cirach, M., Martínez, D., Medina, A., Mompart, A., Basagaña, X., Gražulevičienė, R., & Nieuwenhuijsen, M. J. (2015). Natural outdoor environments and mental and physical health: Relationships and mechanisms. Environment International, 77, 35–41. https://doi.org/10.1016/j.envint.2015.01.012World Health Organization. (2025). World Suicide Prevention Day 2025. https://www.who.int/campaigns/world-suicide-prevention-day/2025World Health Organization. Regional Office for Europe. (2023). Assessing the value of urban green and blue spaces for health and well-being. https://iris.who.int/handle/10665/367630กรมสุขภาพจิต. (n.d.). รายงานสถานการณ์การฆ่าตัวตายในประเทศไทย ปีงบประมาณ 2566. https://suicide.dmh.go.th/news/view.asp?id=92