จับคู่สีให้เหมาะกับห้องต่างๆ ในบ้านเรา
เขียนบทความโดย RISC | 3 ปีที่แล้ว
แก้ไขล่าสุด : 2 ปีที่แล้ว
โพสต์ก่อนหน้านี้ เรารู้แล้วว่า “สี” ส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก และพฤติกรรมของเราอย่างไรบ้าง? (อ่านได้ที่ https://www.facebook.com/riscwellbeing/posts/3006958236234006)
แต่คราวนี้เราลองมาดูกันว่า ถ้าเราจับคู่สีให้เหมาะกับห้องต่างๆ ในบ้านเราจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้น? งั้นเรามาเริ่มที่งานวิจัยที่น่าเชื่อถือเหล่านี้กันก่อน...
ปี 1950 Faber, B. พบว่า แสงและสีมีอิทธิพลทางชีววิทยาต่อพืช สัตว์และมนุษย์ โดยสีที่สว่างและอบอุ่นจะกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้เพิ่มความดันโลหิต ชีพจร และอุณหภูมิร่างกาย และยังวิจัยพบว่า สีฟ้าเหมาะที่จะใช้เป็นสีในห้องนอน โดยเฉพาะห้องคนที่มีปัญหานอนไม่หลับ เพราะสีฟ้าให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย นอกจากนั้นการใช้ยาสีฟ้า (ยาหลอก) เป็นยานอนหลับ ยังได้ผลดีอีกด้วย
ปี 1979 Chute พบว่า สีเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการเรียนรู้ของมนุษย์ การเรียนรู้จากการดูภาพ จะขึ้นอยู่กับความสลับซับซ้อนและความยากง่ายของภาพ
ปี 2010 Kow พบว่า ห้องสีชมพูจะทำให้อารมณ์สงบ การเต้นของหัวใจช้าลง ความเครียดและความก้าวร้าวลดลง เมื่ออยู่ในห้องนาน 15 นาที และจะสงบอย่างต่อเนื่องไปอีก 30 นาที
จากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือต่างๆ เราคงเห็นกันแล้วว่า สีมีอิทธิพลต่อการทำงานของระบบประสาทและร่างกายของเราในด้านต่างๆ เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาและเผยแพร่ข้อมูลโดยกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับ “สีบำบัด” ของ นายแพทย์สมเกียรติ ศรไพศาล ที่เขียนไว้ใน ปี 2552 สรุปผลของสีต่างๆ ต่อระบบการทำงานของร่างกายตามนี้...
สีเหลือง: เยียวยาอาการท้อแท้ ระบบการย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
สีส้ม: บรรเทาอาการซึมเศร้า รักษาหอบหืด
สีแดง: เพิ่มพลังแห่งชีวิต สร้างเม็ดเลือดแดง
สีม่วง: สร้างแรงบันดาลใจ ปรับสมดุลในร่างกาย
สีเขียว: คลายเครียด ลดความดันโลหิต
สีน้ำเงิน: บรรเทาความดันสูง
สีฟ้า: บรรเทาโรคปอด
จากผลการวิจัย เราจะเห็นว่า “สี” มีความสำคัญมากกว่าที่ตามองเห็น เพราะยังสามารถไปกระตุ้นระบบต่างๆ ภายในร่างกายของเราได้ และส่วนนี้เองหากเราเข้าใจ เราก็จะสามารถเลือกสีต่างๆ มาใช้ เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกายและความรู้สึกดีๆ จากการทำงานส่วนลึกของสมองเราได้อีกด้วย
งั้นเรามาลองจับคู่สีให้เหมาะกับกิจกรรมในห้องต่างๆ ภายในบ้านเรากันว่า สีอะไรควรใช้กับห้องอะไร?
สีส้ม เหมาะใช้กับห้องทานอาหาร เพราะมีความสัมพันธ์กับความอยากอาหาร จึงเป็นที่นิยมใช้ในการตกแต่งร้านอาหาร แสดงความสดใสร่าเริง กระตุ้นความสนใจ และยังสามารถใช้ในการตกแต่งห้องต่างๆ ภายในบ้านได้เช่นกัน
สีม่วง เหมาะใช้กับห้องพระ หรือห้องศิลปะ เพราะทำให้เกิดสมาธิ ดึงจิตเข้าสู่ภายใน ยกระดับจิตใจ/จิตวิญญาณ ความสงบ ความเชื่อ ผ่อนคลาย และเกิดความคิดสร้างสรรค์
สีชมพู เหมาะใช้กับห้องทำงาน หรือห้องอ่านหนังสือ เพราะทำให้อารมณ์สงบลง การเต้นของกล้ามเนื้อหัวใจช้าลง สำหรับในที่ทำงาน สีชมพูเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ในห้องประชุม ลดความเครียดและความก้าวร้าวลง
สีฟ้า เหมาะใช้กับห้องนอน หรือห้องทำงาน เพราะช่วยให้จิตใจกระชุ่มกระชวย บรรเทาความเศร้า และช่วยกล่อมจิตใจให้เบิกบาน นอกจากนี้ยังช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย และความดันโลหิต ช่วยบรรเทาความเจ็บปวด และทำให้รู้สึกเย็นสบาย
สีเขียว เหมาะใช้กับห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น เพราะช่วยให้ระบบประสาท ประสาทตา กล้ามเนื้อตาผ่อนคลาย การหายใจจะช้าลง อุณหภูมิของผิวหนัง รวมทั้งอัตราการเต้นของหัวใจจะช้าลง และยังช่วยให้รู้สึกสงบ ร่มเย็น มีชีวิตชีวา
เราจะเห็นได้ว่า การมองสีต่างๆ ผ่านจอประสาทตา จะเกิดการกระตุ้นสมอง และส่งผลต่อความรู้สึก จิตใจ ฮอร์โมน และอารมณ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราสามารถเลือกสีเหล่านี้มาช่วยกระตุ้น ให้กลายเป็นความรู้สึกที่ดี ลดอาการเครียด ลดความกังวล ผ่อนคลาย ไม่หงุดหงิด กินได้ นอนหลับ เพื่อที่เราจะได้มีความสุขทั้งกายและจิตใจมากขึ้น
เนื้อหาโดย ดร.สฤกกา พงษ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัย RISC