"Marine Heatwave" ภัยความร้อนในมหาสมุทรที่เกิดจากฝีมือเราเอง
โดย RISC | 1 ปีที่แล้ว
ปีนี้เป็นอีกปีที่เรารับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลกอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่ร้อนจัดผิดปกติ ฤดูฝนมาช้าและตกน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่รู้หรือไม่?...ยังมีอีก 1 สัญญาณเตือนที่สำคัญถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกที่เราอาจจะไม่ได้รับรู้โดยตรงนั่นคือ การเกิด "คลื่นความร้อนในมหาสมุทร” หรือที่เรียกว่า Marine Heatwave นั่นเองเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อุณหภูมิเฉลี่ยผิวน้ำทั่วโลกสูงขึ้นผิดปกติ ทำลายสถิติเดิมในปี 2016 ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของทุกๆ เดือนนับตั้งแต่ปี 1991 ทำให้ในตอนนี้โลกกำลังประสบปัญหาคลื่นความร้อนในมหาสมุทรครอบคลุมถึง 48% ของมหาสมุทรทั่วโลก ทั้งในบริเวณแถบเส้นศูนย์สูตรของมหาสมุทรแปซิฟิก, แปซิฟิกตะวันออกเฉียงเหนือ, แปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ, แปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้ใกล้ประเทศนิวซีแลนด์, ทะเลญี่ปุ่น, ทะเลโอค็อตสค์, ทะเลแคริบเบียน, อ่าวเม็กซิโก และตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่ง Marine Heatwave Forecast Monthly Report ขององค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NOAA) คาดการณ์ว่า คลื่นความร้อนในมหาสมุทรจะครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 50% ของมหาสมุทรทั่วโลกไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าแล้ว...คลื่นความร้อนในมหาสมุทรคืออะไร แล้วส่งผลอะไรกับเรา?คลื่นความร้อนในมหาสมุทร คือ ปรากฎการณ์อุณหภูมิผิวน้ำของมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้นมากผิดปกติเป็นระยะเวลานาน อาจจะเป็นสัปดาห์ เดือน หรือหลายปี และสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ในมหาสมุทร โดยมีสาเหตุมาจากการดูดซับความร้อนจากพื้นผิวโลกที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มากักเก็บไว้ในมหาสมุทรหรือทะเลมากเกินไป ทำให้อุณหภูมิผิวน้ำสูงกว่าค่าเฉลี่ย ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในมหาสมุทรและชุมชนชายฝั่ง สายใยอาหาร (Food Web) ในทะเลถูกทำลาย เกิดปะการังฟอกขาว สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล และนกทะเลจำนวนมากต้องตายเป็นจำนวนมหาศาล และสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ นอกจากนี้ คลื่นความร้อนในมหาสมุทรยังมีความสัมพันธ์กับโอกาสที่จะเกิด "สภาพอากาศสุดขั้ว" (Extreme Weather) ทำให้ฝนตกหนัก เกิดพายุที่รุนแรงมากกว่าปกติ และยังส่งผลต่อน้ำแข็งในทะเล เกิดความเสี่ยงที่จะละลายตัวอย่างรวดเร็ว จนทำให้โลกมีระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอีกด้วย"มหาสมุทรเป็นระบบนิเวศที่ใหญ่ที่สุดของโลก การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรนั้น ย่อมส่งผลให้เกิดภัยอันตรายที่สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อโลก" โดยต้นตอของปัญหาที่ทำให้เกิดคลื่นความร้อนในมหาสมุทร ก็มาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มาจากฝีมือของพวกเรากันเอง ซึ่งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำกิจกรรมของเรา และของทุกภาคส่วน จึงเป็นความร่วมมือที่สำคัญที่สุด ที่จะช่วยให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตสามารถอาศัยอยู่บนโลกต่อไปได้ในอนาคตเนื้อหาโดย คุณ ศิรพัชร มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS), RISC อ้างอิงข้อมูลจาก https://psl.noaa.gov/marine-heatwaves/#reporthttps://marine.copernicus.eu/explainers/phenomena-threats/heatwaves